มัชรูมมัดใจครั้งที่ 2 ตอน กำลังใจทำให้มีพลังกายคิดทำครั้งต่อไป

    เช้าวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2566 บ้านเสาวัดฝนตกหนักมาก วันนี้โค้งคำนับฟาร์มมีกำหนดการไปมอบสิ่งของช่วยเหลือสังคม ตามที่ได้ประกาศจะเติมพลังชุมชนในโครงการมัชรูมมัดใจสร้างสายใยไออุ่นทุนสังคม (12 เดือน 12ชุมชน) ครั้งที่ 2  สถานที่ บ.ดงสาร ต.โพนงาม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร แต่บรรยากาศเหมาะสำหรับนอนพักผ่อนมากเลย

สักพักมีเสียงข้อความไลน์ดังขึ้นจึงเปิดอ่าน

"ขอส่งใจให้รัวๆ ขออำนาจแห่งคุณความดีที่มีปณิธานทำงานนี้ด้วยจิตที่บริสุทธิ์และมั่นคง ส่งผลเป็นพลังจิตและพลังกายพลังใจ มีสุขภาพกาย สุขใจ ปัญญา ที่มีพลังบวก พร้อมทั้งแผ่สู่ผู้อื่นให้ได้รับพลังบวกด้วย ร่ำรวยทรัพย์และปัญญา เป็นพลังเพื่อแผ่นดิน Power of the land ขอคุณความดีที่กระทำ รอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง สาธุ" พร้อมกับกล่าวต่อว่า "ขอบคุณโค้งคำนับฟาร์ม ที่เป็นผลแห่งการบ่มเพาะ ทำให้ SNRU Powerment ได้แสดงปณิธานสมกับเป็น มหาวิทยาลัยแห่งการให้โอกาส อย่างแท้จริง"

เมื่อได้อ่านข้อความนี้แล้วจึงตอบไปว่า

"ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ให้โอกาสลูกหลานคนบ้านนอกคนหนึ่งได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองครับ จะไม่ยอมหยุดเท่านี้แน่นอนครับคุณภาพชีวิตของคนรากหญ้าต้องดีขึ้นต้องยืนหยัดด้วยความภาคภูมิครับ ขอบคุณแทนพ่อแม่พ่อน้องคนไทบ้านด้วยครับ"

    จึงประสานคณะทำงานมาเตรียมแพ็คสิ่งของช่วยเหลือชุมชนบ้านดงสาร จำนวน 20 ครัวเรือน ร่วมกับ โครงการวิจัยการพัฒนาระบบห่วงโซ่การผลิตเกษตรมูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (โครงการย่อยโมเดลแก้จน) มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ในวันนี้มีนักศึกษาวิศวกรสังคม มาช่วยได้แบ่งหน้าที่กัน บางคนช่วยแพ็คสิ่งของ บางคนทำอาหาร เก็บข้อมูล และเก็บภาพบรรยากาศ สามารถช่วยทีมงานโค้งคำนับฟาร์มได้เยอะเลย


    ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาถึงบ่ายโมงกว่าแล้ว แต่ทีมงานโค้งคำนับฟาร์มก็ยังมีพลังใจอย่างเต็มที่ ก่อนออกจากบ้านเสาวัดได้ประชุมวางแผนงานมอบหมายภาระกิจในวันนี้ ซึ่งประธานต่อติดถ่ายทำสื่อสารสาธารณะการดำเนินงานโค้งคำนับฟาร์ม จึงตกลงแบ่งกันเป็น 2 ทีม ได้แก่ ทีมลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือ และทีมให้สัมภาษณ์สื่อ จากนั้นจึงเดินทางไปบ้านดงสาร

    พอถึงที่นัดหมายศาลาประชาคมหมู่บ้านมีคณะกรรมการมาต้อนรับ จึงได้หารือวางแผนการลงไปลงมอบสิ่งของให้แต่ละครัวเรือนตามที่เตรียมรายชื่อไว้แล้วนั้น เนื่องจากระยะเวลาการมอบจะไม่เสร็จครบทุกครัวเรือนก่อนค่ำ จึงแบ่งออกเป็น 2 ทีม ตามพื้นที่ชุมชนแบ่งทีมละ 10 ครัวเรือน แต่ละทีมจะมีตัวแทนคณะทำงานจากโค้งคำนับฟาร์มเป็นผู้นำในการพบปะพูดคุย

    

    การทำหน้าที่ของสมาชิกครั้งนี้เป็นครั้งแรก บรรยากาศตอนแนะนำตัวก็จะเขินเขินตอบไม่ชัดเจนว่ามาจากไหน ทำไมถึงอยากมามอบสิ่งของช่วยเหลือ บอกว่ามาจากกลุ่มเพาะเห็ดบ้านเสาวัดยังติด ๆ ขัด ๆ พูดได้ไม่เต็มปาก แต่ภาระกิจก็สำเร็จไปได้ด้วยดี เป็นที่น่าสังเกตว่าครัวเรือนที่ได้รับมอบสิ่งของช่วยเหลือ มีลักษณะหรือมีปัญหา ได้แก่ ไม่มีที่ทำกิน ซื้อข้าวกิน รับจ้างทั่วไป และสูงอายุ ส่วนใหญ่แล้วสนใจอยากจะเพาะเห็ดเหมือนกับโค้งคำนับฟาร์ม

    ภายหลังประธานต่อ ได้กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน "ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ ทุกความห่วงใยและทุกการสนับสนุน ดูแลกันไปครับน้ำใจไม่เหือดหายมิตรรอบกายมิคลายคลอน ช่วยกันดูแลสังคมดูแลผู้ที่ยังพลาดโอกาสที่เป็นสวัสดิการจำเป็นในการใช้ชีวิตเป็นสิ่งเล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่ ฟันเฟืองเล็ก ๆ นี่แหละที่ขับเคลื่อนเครื่องจักรอันยิ่งใหญ่ให้ทำงานต่อไปในภายหน้าได้อย่างไม่สดุด ผมเชื่อว่ายังมีพื้นที่และคนเล็กน้อยอีกเยอะที่ต้องการความช่วยเหลือและต้องการกำลังใจ มาช่วยกันนะครับ โค้งคำนับฟาร์ม ขอเป็นอีกหนึ่งแอ่งบ่อน้ำใจเพื่อโอบอุ้มให้ใครก็ตามที่กำลังหัวใจห่อเหี่ยวได้มีพลังสู้ต่อไปในวันข้างหน้า รักนะครับ"

    ปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้เข้าใจเลยว่า "การเกิดขึ้นครั้งแรกว่ายากแล้ว การเกิดขึ้นครั้งต่อไปยากกว่า" เป็นบททดสอบหนึ่งที่วัดความหนักแน่นของใจตัวเอง กับการทำธุรกิจที่ต้องรับภาระดูแลสมาชิกทุกคน และที่สำคัญเป็นการตอกย้ำอยากทำธุรกิจเพื่อสังคมจริง ๆ หรือไม ต้องค่อยติดตามให้กำลังใจพวกเราในครั้งต่อไปด้วยนะครับ



ผู้สนับสนุนสิ่งของอุปโภคบริโภค

1. คุณสมพร กองทุน 1000 บาท

2. อ.สายฝน ปุนหาวงค์ 1000 บาท

3 คุณนัทพงษ์ ยศไชยวิบูลย์ 1000 บาท

4 คุณสมชาย เครือคำ 500 บาท

5 อ.มาลี ศรีพรหม 500 บาท

ผู้มอบเครื่องนุ่งห่ม

1.อ.สายฝน ปุนหาวงค์

2.ผศ.ดร.ก้องภพ ชาอามาตย์

3.คุณวิภาวรรณ ใหญ่สมบูรณ์

4.อ.วันนพร สิทธิสาร

ภาพบรรยากาศ Facebook

รายละเอียดโครงการ คลิก

บรรยกาศ Live ในการทำหน้าที่เติมพลังสังคม












ความคิดเห็น